關於 stage fright (1950) ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

英國演員派特．希區考克（Pat Hitchcock）辭世，享耆壽93歲。她曾在名導父親亞佛烈德．希區考克（Alfred Hitchcock）的多部作品中演出，包括《火車怪客 Strangers on a Train》（1951）、《驚魂記 Psycho》（1960）等作。

．
派特．希區考克出生倫敦，是家中獨女，童年時期曾在寄宿家庭接受嚴格的教育。1939年，因為父親受邀前往好萊塢執導《蝴蝶夢 Rebecca》（1940），她隨家人搬到洛杉磯生活。在耳濡目染之下，她自小就立志成為演員。

．
早期她曾以舞台劇演員身分在百老匯出演，不過之所以獲得角色，或許多少得益於父親光環，在父親介紹之下，她得以在1942年參演劇作《Solitaire》，兩年後則在《Violet》擔綱主角。不過在晚年時，她否認自己是倚靠父親獲得機會，他稱父親「從不搞裙帶關係」。

．
1949年，她與父親回到倫敦拍攝《慾海驚魂 Stage Fright》（1950），因為外貌與主角珍．惠曼（Jane Wyman）神似，她被安排飾演其替身，但同時也片中飾演一名同學。在《火車怪客》與《驚魂記》等名作都能見到她的身影，在《驚魂記》中，派特．希區考克與珍妮特．李（Janet Leigh）有對手戲（附圖）。除了參與父親之作，她也《十誡 The Ten Commandments》（1956）當中飾演了一個龍套角色。

．
1960年代後，育有三名子女的派特．希區考克為了家庭淡出電影圈，然而父親沒有對她放棄演藝事業有過挽留。晚年她作為希區考克家族的代表，經常接受一些紀錄片訪談，也為一些關於父親的書籍提供觀點。2003年，她與羅宏．布杰侯（Laurent Bouzereau）出版了《Alma Hitchcock: The Woman Behind the Man》一書，介紹了她的母親艾瑪．雷維爾（Alma Reville）。

．
2021年8月9日，派特．希區考克於加州千橡樹市辭世。

The Invisible Guest (7/10)
พี่เล่นจบแบบนี้เลยเหรอ นักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล โดนจัดฉากว่าฆ่าชู้รักในห้องปิดตาย เขาเลยจ้างสุดยอดทนายมาว่าความให้ แต่เธอบอกให้เล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นย้อนไปถึงวันที่เขากับชู้รักโดนกวางตัดหน้ารถ จนรถเสียหลักทำคนขับรถอีกคันตายคาที่
-------------------------------

***** สปอยล์นะ *****
.
จริง ๆ เทคนิคการเล่าเรื่องแบบแฟลชแบ็กเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด ผู้กำกับที่เอามาใช้คนแรก ๆ น่าจะเป็นอัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก ในหนังเรื่อง Stage Fright ปี 1950 ซึ่งยุคนั้นตอนออกฉายก็โดนคนด่าเละเพราะการฉายภาพเล่าเรื่องจะทำให้คนดูคล้อยตามว่าเป็นเรื่องจริง แตกต่างจากการเล่าปากเปล่าที่คนดูยังสามารถคาดคะเนว่าอาจจะจริงหรือโกหกเอาตัวรอดก็ได้ แต่พอมีภาพและเสียงมาปุ๊บ คนดูจะตีความว่าจริงทันที ซึ่งตอนนั้นพอหนังเฉลยออกมาว่าแฟลชแบ็กที่คนดูเห็นคือเรื่องโกหก คนเลยไม่พอใจกันมาก ๆ เหมือนโดนต้ม อันที่จริงตอนนั้นฮิตช์ค็อกก็ไม่ได้ปลื้มกับการใส่แฟลชแบ็กหลอกคนดู แต่เขาแก้ไขไม่ทันเพราะถ่ายเสร็จตัดต่อจบหมดแล้ว

แต่เทคนิคการเล่าแบบแฟลชแบ็กโกหกคนดูพอมาอยู่ในยุคนี้แบบ The Invisible Guest กลับกลายเป็นว่าคนดูชอบและไม่โกรธเคืองอะไร เราว่าคนดูยุคหลัง ๆ เริ่มผ่านหนังแนวนี้มาพอสมควร ขณะเดียวกันหนังมันเล่าจากมุมมองผู้สมรู้ร่วมคิดกระทำผิด คนดูเลยน่าจะเข้าใจหรือระแวดระวังว่าเป็นการเอาตัวรอด เพียงแต่เราดูแล้วไม่ได้รู้สึกทึ่งกับมุกเล่าเรื่องแบบนี้เท่าไร เมื่อเทียบกับหนังที่เล่าความจริงตรงไปตรงมา แต่อาจจะค่อย ๆ หยอดรายละเอียดเพิ่มเติมทีละนิดให้ปะติดปะต่อเอาเอง
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Netflix: https://www.netflix.com/watch/80093106
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb

#หนังโปรดของข้าพเจ้า

ดูช้าแต่ดูแล้วนะ พอดีดู Knives Out รอบพิเศษไปก่อนแล้วเลยอยากหาแนว whodunit ดูเพิ่มหน่อย ก็มาจบที่ The Invisible Guest ก็โอเคนะ ไม่ได้ถึงขั้นว้าว อาจจะเพราะรู้สึกว่าตอนจบมันเล่นใหญ่จนดูเกินจริงไปนิด แต่เทคนิคการเล่าแบบนี้พอมาประยุกต์ใช้ดี ๆ ก็สับขาหลอกคนดูได้อยู่ เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว แถมคนตายไปแล้วพูดไม่ได้ การจะไขปริศนาจึงต้องงัดทุกกลเม็ดออกมาใช้

**** จะเขียนถึงเทคนิคการเล่าเรื่องสักนิด ใครกลัวสปอยล์ข้ามไปเลยครับ ****
.
.
จริง ๆ เทคนิคการเล่าเรื่องแบบแฟลชแบ็กเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด ผู้กำกับที่เอามาใช้คนแรก ๆ น่าจะเป็นอัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก ในหนังเรื่อง Stage Fright ปี 1950 ซึ่งยุคนั้นตอนออกฉายก็โดนคนด่าเละเพราะการฉายภาพเล่าเรื่องจะทำให้คนดูคล้อยตามว่าเป็นเรื่องจริง แตกต่างจากการเล่าปากเปล่าที่คนดูยังสามารถคาดคะเนว่าอาจจะจริงหรือโกหกเอาตัวรอดก็ได้ แต่พอมีภาพและเสียงมาปุ๊บ คนดูจะตีความว่าจริงทันที ซึ่งตอนนั้นพอหนังเฉลยออกมาว่าแฟลชแบ็กที่คนดูเห็นคือเรื่องโกหก คนเลยไม่พอใจกันมาก ๆ เหมือนโดนต้ม อันที่จริงตอนนั้นฮิตช์ค็อกก็ไม่ได้ปลื้มกับการใส่แฟลชแบ็กหลอกคนดู แต่เขาแก้ไขไม่ทันเพราะถ่ายเสร็จตัดต่อจบหมดแล้ว

แต่เทคนิคการเล่าแบบแฟลชแบ็กโกหกคนดูพอมาอยู่ในยุคนี้แบบ The Invisible Guest กลับกลายเป็นว่าคนดูชอบและไม่โกรธเคืองอะไร เราว่าคนดูยุคหลัง ๆ เริ่มผ่านหนังแนวนี้มาพอสมควร ขณะเดียวกันหนังมันเล่าจากมุมมองผู้สมรู้ร่วมคิดกระทำผิด คนดูเลยน่าจะเข้าใจหรือระแวดระวังว่าเป็นการเอาตัวรอด เพียงแต่เราดูแล้วไม่ได้รู้สึกทึ่งกับมุกเล่าเรื่องแบบนี้เท่าไร เมื่อเทียบกับหนังที่เล่าความจริงตรงไปตรงมา แต่อาจจะค่อย ๆ หยอดรายละเอียดเพิ่มเติมทีละนิดให้ปะติดปะต่อเอาเอง

ตอนจบ The Invisible Guest เลยไม่ได้ทำให้เราทึ่งมาก นอกจากตกใจว่าพี่เล่นแบบนี้เลยเหรอ
หนังมีใน Netflix เน้อ